เกมคัดเลือกยูโร 2008 ซึ่งไอร์แลนด์ เหนือ เอาชนะทีมบิ๊กเนมของยุโรปอย่างสเปน โฟกัสทั้งหมดถูกดึงไปที่เดวิด ฮีลี่ย์ ผู้ทำแฮตทริกได้ในเกมวันนั้น ทว่าภายใต้เรื่องราวที่เป็นที่กล่าวถึงยังมีเรื่องราวของนักเตะดาวรุ่งคนหนึ่งที่ประเดิมสนามในเกมทีมชาติชุดใหญ่เป็นนัดแรกในชีวิต เขาคนนั้นชื่อ “โจนาธาน อีแวนส์”
ดาวรุ่งวัย 18 ปีผู้นี้เป็นนักเตะถนัดขวาโดยธรรมชาติ ทว่าถูกเรียกตัวไปเสริมทัพในทีมชาติไอร์แลนด์ เหนือ ชุดใหญ่ในตำแหน่งแบ็กซ้าย ในการลงสนามให้ทีมชาตินัดแรกบททดสอบบทแรกของเขาคือกองหน้าระดับต้นๆ ของยุโรปอย่าง “เฟอร์นานโด ตอร์เรส”
การเผชิญหน้ากันปรากฏว่าในเกมนั้นตอร์เรส ไม่สามารถแสดงความอันตรายในตัวออกมาได้เลย ท้ายที่สุดแล้วผู้ชนะคือ “โจนาธาน อีแวนส์”
สายด่วนจากสูอิส ซานเชส ก่อนหน้าเกมใหญ่เพียง 1 วันคือจุดเริ่มต้นเส้นทางแห่งอนาคตในทีมชาติของกองหลังดาวรุ่งผู้นี้ ทั้งๆ ที่ในตอนนั้นโจนาธาน อีแวนส์ ยังเป็นหนึ่งในขุนพลทีมชาติไอร์แลนด์ เหนือ ชุดยู 21 อยู่ เจ้าตัวกล่าวถึงเรื่องราวในวันนั้นเอาไว้ว่า “ลูอิส โทรมาหาผมแล้วถามว่า รู้สึกอย่างไรถ้าจะได้ลงเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้าย ผมตอบไปว่า โอกาสที่ดีที่สุดในการได้ลงเล่นทีมชาตินัดแรก ผมเล่นได้หมดไม่ว่าตำแหน่งไหน ลูอิสตอบผมว่า ตกลง งั้นนายจะได้ลงเล่นคืนนี้ ความรู้สึกตอนนั้นผมงงไปหมด อึ้งไปซักพัก ก่อนที่จะรีบโทรไปบอกข่าวดีที่สุดนี้ให้พ่อกับแม่รู้ เกมแรกในนามทีมชาติในตำแหน่งแบ็กซ้าย ผมก็เคยเล่นตำแหน่งนี้มาบ้าง”
แอรอน ฮิวจ์ กัปตันทีมชาติไอร์แลนด์ เหนือ กล่าวถึงโจนาธาน อีแวนส์ “ครั้งสุดท้ายผมเพิ่งเห็นเขาลงเล่นนัดแรกให้ทีมยู 21 อยู่เลย ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าฟอร์มของเขาเป็นอย่างไร เขาเพิ่งถูกเรียกเข้ามาเสริมทีมชุดใหญ่ก่อนวันแข่งขัน 2 วันเท่านั้น และทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเขาดูเป็นเรื่องง่ายไปหมด เขาได้โอกาสที่สุดวิเศษและก็คว้ามันไว้ได้ เขาเป็นคนที่โชคดีมากๆ”
ย้อนอดีตกลับไปในวัย 9 ขวบ โจนาธาน อีแวนส์ ได้เข้ามาสัมผัสชายคาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรก และกลับไปพร้อมความหวังที่จะเข้ามาเป็นนักเตะของทีมที่เขารักให้ได้ หลังจากนั้นเมื่อเขาอายุ 15 ปี เด็กน้อยจากเบลฟาสต์ซึ่งยึดตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟมาโดยตลอด ต้องเดินทางไกลออกจากบ้านมาใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนเพื่อที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมอย่างสมบูรณ์ ก่อนที่ 6 เดือนต่อมาครอบครัวของโจนาธาน อีแวนส์ ก็ย้ายตามอยู่ที่แมนเชสเตอร์กันทั้งหมด น้องชายแท้ๆ ของเขา คอรี่ย์ อีแวนส์ ก็เดินตามเส้นทางเดียวกับพี่ชาย ปัจจุบันเป็นนักเตะในทีมยู 16 ของแมนฯ ยูไนเต็ด เช่นกัน ต่างกันเพียงคอรี่ย์ อีแวนส์ เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์
โจนาธาน อีแวนส์ เปิดเผยถึงความรู้สึกในตอนนั้น “เมื่อผมต้องออกเดินทางมาอยู่ไกลจากบ้านในตอนนั้นผมรู้สึกกังวลนิดหน่อย แต่พ่อของผม แจ๊คกี้ เคยมีประสบการณ์ที่ต้องออกจากบ้านมาตอนอายุ 16 เพื่อมาเป็นเด็กฝึกของเชลซี และต้องอาศัยอยู่ในลอนดอนคนเดียว หลังจากย้ายออกจากเชลซี ก็ไปอยู่กับอาร์เซนอล ตามด้วยบาร์เน็ต ตำแหน่งของพ่อคือแบ็กขวา ประสบการณ์ต่างๆ ของชีวิตการเป็นนักฟุตบอลที่พ่อเล่าให้ฟังเป็นประโยชน์ต่อผมเป็นอย่างมาก ช่วยสร้างความั่นใจให้กับตัวผมว่าสามารถทำทุกอย่างให้ได้ตามที่หวัง”
“คำสอนของพ่อทำให้ผมไม่รู้สึกหวั่นกลัวต่ออุปสรรค์ ผมพร้อมที่จะเรียนรู้และพัฒนา สร้างประสบการณ์ให้ตัวเอง สิ่งเหล่านี้ช่วยผมได้มากในการปรับตัวกับผู้คนที่ไม่คุ้นเคยและสถานที่ใหม่ ที่สโมสรแห่งนี้ผมมีความมั่นใจสูงและปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ดี”
ครอบครัวของโจนาธาน อีแวนส์ ทุกคนเป็นแฟนตัวยงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จุดมุ่งหมายอันสูงสุดของเขาจึงอยู่ที่สโมสรอันเป็นที่รักแห่งนี้แห่งเดียว “มีหลายทีมที่แสดงความสนใจในตัวผม แต่ผมต้องการลงเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียงทีมเดียวเท่านั้น” โจนาธานเผยความในใจ “ครั้งแรกที่ผมได้พบกับอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตอนนั้นผมอายุ 10 ขวบ ผมยังเก็บรูปที่ถ่ายในวันนั้นเอาไว้ที่บ้านอยู่เลย”
“ทีมให้ความสำคัญมากกับการพัฒนานักเตะเยาวชน โค้ชของทีมเยาวชน พอล แมคกินเนสส์ ซึ่งเป็นลูกชายของวิฟ แมคกินเนสส์ อดีตนักเตะของทีม เขาชอบเล่าเรื่องราวต่างๆ มากมายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของสโมสรให้พวกนักเตะเยาวชนฟัง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ให้ความเป็นกันเองมากกับพวกนักเตะเด็กๆ ในทีม เข้ามาพูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบอยู่เสมอๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี” อีแวนส์ กล่าว
ในแคมป์ทีมชาติ โจนาธาน อีแวนส์ เป็นเพื่อนร่วมห้องของเดวิด ฮีลี่ย์ อดีตนักเตะเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้ทั้งคู่ได้พูดคุยกันบ่อยและสนิทสนมกัน “เดวิด เล่าให้ผมฟังเรื่องตอนที่เขาเป็นนักเตะของยูไนเต็ด ว่าต้องพยายามอย่างหนักอย่างไรบ้าง เขารู้ว่าเขามีโอกาสไม่มากนักในการก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ ทำให้เขาต้องย้ายออกไปหาทางเลือกใหม่
ผมไม่ต้องการให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นกับตัวผม แต่ผมก็ไม่ได้กังวลกับมันมากมายหรอกนะ เพราะผมรู้ว่าผมต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ”
ท่ามกลางกลุ่มนักเตะดาวรุ่งที่มากพรสวรรค์หลายคน ในแคมป์ปิศาจแดง เช่น จูเซฟเป้ รอสซี่, เคราร์ด ปิเก้, ฟิล บาร์ดสลี่ย์, ลี มาร์ติน และดาร์รอน กิ๊บสัน จึงหลีกเลี่ยงอย่างไม่ได้ที่จะถูกสื่อต่างๆ ยกขึ้นมาเปรียบเทียบกับดาวรุ่งยุค Class of ’92 ตัวของโจนาธานเองออกมายอมรับว่า “มีหลายคนเอาเราไปเทียบกับกลุ่มดาวรุ่ง Class of ’92 ผมว่าเรายังไม่ได้ก้าวไปสู่ความสำเร็จได้เทียบเท่ารุ่นพี่พวกนั้น แต่ที่เรามีเหมือนกันคือความมุ่งมั่นที่เต็มเปี่ยม แต่ผมก็รู้สึกปลื้มนะที่ถูกยกไปเทียบกับ Class of ’92 สิ่งที่พวกเขาสร้างไว้นั้นยอดเยี่ยมมาก และเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดที่พวกเราต้องการที่จะไปให้ถึง”
ซีซั่นนี้ โจนาธาน อีแวนส์ ถูกยืมตัวไปที่รอยัล อันท์เวิร์ป ทีมในดิวิชั่น 2
ลีกเบลเยี่ยม เขาได้ลงเล่นเป็นกำลังหลักให้ทีมโดยตลอด จุดเด่นของเขาอยู่ที่ความเยือกเย็นในการเล่น เฉียบขาดในการจัดการกับกองหน้าเทคนิคสูง คุมพื้นที่ในเกมรับได้อย่างแน่นอน ถ้าดวลกันตัวต่อตัวแล้วคู่ต่อสู้ผ่านได้ยาก เป็นกองหลังที่ยิงประตูได้ดีไม่แพ้กองหน้า ด้วยรูปร่างสูงใหญ่ถึง 195 ซม. จึงจัดการกับลูกกลางอากาศได้อย่างไม่มีปัญหา เหลือก็แค่การเสริมสร้างกล้ามเนื้อของร่างกายที่เมื่อโตขึ้นความแข็งแกร่งก็จะเพิ่มมากขึ้น อนาคตการเป็นสุดยอดกองหลังของทีมกำลังรออยู่
นับเป็นดาวรุ่งอนาคตไกลที่ในช่วงปีหลังมานี้ฟอร์มพัฒนาแบบก้าวกระโดด ถึงขนาดป๋ากี้ออกมาพูดชมว่า “โจนาธาน อีแวนส์ คือกำลังหลักของทีมชุดใหญ่ในอนาคต”
Beckkaew
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC